
รถคันใหญ่อย่างรถบรรทุก ที่เป็นเหมือนเครื่องมือทำมาหากินของเรา ดังนั้นการให้ความสำคัญในการดูแลรักษารถเพื่อไม่ให้เสียหายก่อนอายุการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่เราควรทำอย่างยิ่ง
วันนี้เรามาลองดู 6 วิธีดูแลรถบรรทุกแบบมือโปรกันดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง
1) เช็คลมยางสม่ำเสมอ
การตรวจเช็คลมยางเป็นการดูแลรถที่ง่ายที่สุด โดยสามารถทำได้โดยการสังเกตล้อยางก่อนการออกเดินทาง และเติมลมให้เรียบร้อยเมื่อมีโอกาส โดยลมยางที่เหมาะสมนั้นต้องคำนึงถึงน้ำหนักรถ น้ำหนักสิ่งของที่บรรทุก ความเร็วที่ใช้ และพื้นถนนที่เราต้องวิ่งผ่าน เราสามารถเติมลมยางได้ตั้งแต่ 85-100 psi ขึ้นอยู่กับขนาดยาง หากอยู่ที่ตำแหน่งพ่วงหรือล้อลากที่ต้องรับน้ำหนักการบรรทุกเยอะๆ ให้เพิ่มแรงดันเป็น 100-125 psi ตามขนาดยาง และยังสามารถเติมลมยางได้มากกว่า 130 psi ในยางขนาดใหญ่มากๆ
2) เติมน้ำฉีดกระจกปัดน้ำฝน
ควรตรวจที่ปัดน้ำฝนและกระจกปัดน้ำฝนเดือนละครั้ง ซึ่งวิธีการเช็คไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่สังเกตสัญลักษณ์ที่ปัดน้ำฝนในห้องเครื่องรถบรรทุกเพื่อหาถังน้ำฉีดกระจก จากนั้นก็เติมน้ำสะอาดลงไปให้ถึงขีดที่กำหนด เพียงเท่านี้ น้ำสำหรับฉีดกระจกปัดน้ำฝนก็จะไม่ขาดเมื่อถึงยามที่เราต้องใช้งาน
3) ตรวจหม้อน้ำ
หม้อน้ำนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนมีรถที่ควรจะต้องหมั่นตรวจสอบอยู่เป็นประจำ ไม่เพียงแต่รถบรรทุกเท่านั้นแม้แต่รถเล็กก็ควรที่จะต้องตรวจสอบเป็นประจำเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าหม้อน้ำของรถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ ซึ่งการตรวจวัดระดับน้ำในหม้อน้ำควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
4) เช็คลมยางอะไหล่
ยางอะไหล่นั้นจะถูกเก็บไว้เพื่อรอการใช้งาน เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้งานขึ้นมายางอะไหล่จะต้องพร้อมอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อวันเวลาผ่านไปลมที่อยู่ภายในยางอะไหล่จะถูกคายออกทีละน้อยตลอดเวลา เราจึงควรตรวจเช็คยางอะไหล่อย่างน้อยเดือนละครั้ง และเติมลมยางให้มากกว่าปกติไว้เล็กน้อยอยู่เสมอ
5) เช็คน้ำมันเครื่อง
วิธีนี้เราจะไม่สามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการที่เราสามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวเองนั้นควรทำทุกสองถึงสามสัปดาห์เพื่อเป็นการตรวจเช็คสภาพ และระดับปริมาณน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้การเลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพดี และรักษาระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะสามารถดูแลรถได้
6) ติดตั้งซุ้งบังโคลนรถ
บังโคลนรถมีหน้าที่ป้องกันสิ่งสกปรกที่สามารถเข้าไปทำร้ายใต้ท้องรถได้ ซึ่งทั่วไปแล้วจะนิยมติดทั้ง 4 ล้อรถเลยทีเดียว โดยติดตั้งอยู่ด้านหลังสี่ยางของรถ ผลลัพธ์จากการติดตั้งคือการช่วยป้องกันหินบินและกรวดได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการทำร้ายผิวที่ทาสีของตัวรถ ปกป้องช่วงล่างของรถไม่ให้เกิดความเสียหาย
